วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

The U.S. Candidate Presidential in 2016


คงจะต้องยอมรับว่าสหรัฐอเมริกาเจ้าของตำแหน่ง "มหาอำนาจเบอร์ 1" ของโลกในยุคปัจจุบันนับแต่การสิ้นสุดของสงครามเย็น สหรัฐอเมริกาก็ผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อประเทศมหาอำนาจนี้ทำอะไรลงไป ย่อมส่งผลกระทบต่อประชาคมโลกเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และ "การเมือง"

แม้ว่าจะเพิ่งผ่านมาปีกว่าๆสำหรับศึกชิงทำเนียบขาวในปี 2012 ระหว่างเจ้าของเก้าอี้เก่าอย่างนายบารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต และผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน อย่างนายมิตต์ รอมนี่ย์ ผลคือเจ้าของเก้าอี้เก่า คือ โอบามา สามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้อีกสมัยหนึ่ง 


การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในปี 2016 (พ.ศ.2559) แม้จะอีกนานกว่าจะถึงแต่ก็ดูเหมือนพรรคการเมืองใหญ่สองพรรคก็เริ่มมีความชัดเจนแล้วเรื่องผู้สมัคร (The Candidate) และการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่น่าจับตาดูมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะ การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอีกสองปีข้างหน้าจะเป็น "จุดเปลี่ยน" ที่สำคัญมากของการเมืองสหรัฐอเมริกา และการแข่งขันและเดิมพันจะสูงมากกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากนายบารัค โอบามา เมื่อหมดวาระในครั้งนี้แล้วจะไม่สามารถลงแข่งเป็นประธานาธิบดีได้อีก เนื่องจากรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริการะบุไว้ว่า ห้ามประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งเกินสองวาระ นั่นหมายความว่า ทั้งสองพรรคจะต้องหาผู้สมัครหน้าใหม่ลงแข่งขันกัน และการเลือกตั้งครั้งนี้ฝ่ายที่ดูเหมือนจะกุมไพ่เหนือกว่าคือ พรรครีพับลิกัน เพราะรสนิยมการเลือกผู้นำของชาวอเมริกันจะไม่ชอบเลือกผู้นำจากพรรคเดียวกันติดต่อกัน ครั้งนี้เดโมแครตชนะ ดังนั้นรีพับลิกันจึงดูมีเครดิตกว่า บวกกับคะแนนนิยมของนายโอบามา ที่นับมันยิ่งตกต่ำลง เนื่องจากความไม่เด็ดขาดในวิกฤติการณ์ไครเมีย ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของนายโอบามาที่จะต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ในตำแหน่งประมาณสองปีฟื้นฟูคะแนนนิยมของตัวเองให้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะคะแนนนิยมของโอบามา คือความน่าเชื่อถือของพรรคเดโมแครต และจะส่งผลโดยตรงต่อผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตรายต่อไปนั่นเอง อย่างไรก็แล้วแต่เมื่อเราพูดถึงบรรยากาศการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาแล้ว ก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงผู้สมัครที่เป็น "ตัวเต็ง" ของทั้งสองพรรค เรามาดูกันว่าจะมีใครกันบ้าง?



นายโจ ไบเดน (ซ้าย) รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
นางฮิลลารี่ คลินตัน (ขวา) อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา














พรรคแรกที่จะกล่าวถึงคือ พรรคเดโมแครต พรรคการเมืองเสรีนิยมอันเก่าแก่ของสหรัฐอเมริกาที่ค่อนข้างจะมีความชัดเจนออกมาแล้วถึงตัวผู้สมัครที่จะเป็นตัวเต็งของพรรค เดิมทีมีด้วยกันหลายท่านที่จะคาดว่าจะลงสมัครแข่งขันเป็นตัวแทนของพรรค แต่ขอตัดเหลือสองคนที่คิดว่าน่าจะเป็นตัวเต็ง(จริงๆ) เพราะ มีอิทธิพลอย่างสูงในพรรครวมถึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวอเมริกันในขณะนี้ นั่นคือ นายโจ ไบเดน และนางฮิลลารี่ คลินตัน แม้ทั้งสองคนนี้จะอายุค่อนข้างจะมากแล้ว แต่ก็ถือว่าทรงอิทธิพลและมีประสบการณ์มากมาย จึงเรียกได้ว่า "รุ่นเก่า เก๋าประสบการณ์" 


ปีนี้ก็ปาเข้าไป 72 ปี แล้วสำหรับคนแรกที่เราจะกล่าวถึงคือ "คุณปู่โจ ไบเดน" แต่แม้จะอายุมากแต่ขอบอกเลยคนๆนี้เป็นคนไม่ธรรมดาจริงๆ เห็นหัวขาวๆแบบนี้แต่พิษสงร้ายกาจนัก คุณปู่ไบเดนปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา คุณปู่ไบเดนเป็นวุฒิสมาชิกที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 6 ในประวัติศาสตร์อีกด้วย เขามีความเชี่ยวชาญอย่างมากเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และด้วยเป็นคนที่เข้าถึงง่าย มีอัธยาศัยดี แถมเป็นนักการเมืองประเภทที่ว่า "แก่แต่ก็เข้าใจวัยรุ่น" เป็นคนแก่ที่ไม่หัวโบราณ ด้วยการประกาศว่าตนสนับสนุนกฎหมายการแต่งงานของชาวรักร่วมเพศ จึงสร้างความฮือฮาและทำให้ประชาชนชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะสนับสนุนเขาให้เป็นประธานาธิบดี แต่อย่างไรก็แล้วแต่คุณปู่ไบเดนได้บอกว่าเขายังจะไม่ตัดสินใจว่าจะลงสมัครเป็นผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2016 หรือไม่? แต่เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ผมค่อนข้างจะแน่ใจว่าเขาจะพร้อมสำหรับการลงสมัครเป็นประธานาธิบดีแน่นอน ถึงแม้ว่าอายุจะมากแล้ว แต่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ก็คิดว่าอายุของเขาไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในเส้นทางการสู่ทำเนียบขาวของเขา